1. เงินจอง จ่ายเพื่อยืนยันว่าจะซื้อแน่ๆ มูลค่าการจองขึ้นอยู่กับราคาของบ้านหรือคอนโด และมักเริ่มที่หลักหมื่นเป็นต้นไป
2. เงินทำสัญญา จ่ายภายใน 7 -14 วันหลังวางเงินจอง มักเริ่มต้นที่หลักหมืนหรือหลักแสน ขึ้นอยู่กับราคาของที่อยู่อาศัยที่ตกลงซื้อ
3. เงินดาวน์ ผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ หลังทำสัญญาแล้ว มูลค่าในแต่ละงวดเป็นไปตามที่โครงการกำหนด สำหรับคอนโดจะเริ่มดาวน์ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 10 % ของราคาจริง ส่วนบ้านจะเริ่มต้นที่ 5 % ของราคาจริง
4. ค่าประเมินราคา จ่ายเมื่อทำเรื่องยื่นกู้ เฉลี่ยประมาณ 2,000 - 3,000 บาทต่อการประเมินแต่ละครั้ง ถ้ายื่นกู้หลายธนาคารก็ต้องจ่ายหลายรอบ และถึงกู้ไม่ผ่านก็จะไม่ได้รับเงินคืน
5. ค่าจดจำนอง จ่ายเมื่อโอนกรรมสิทธิ์ อัตราปกติคือ 1% ของมูลค่าที่จดจำนอง
6. ค่าธรรมเนียมการโอน จ่ายเมื่อโอนกรรมสิทธิ์ อัตราปกติคือ 2% ของราคาประเมินกรมที่ดิน
7. เงินกองทุนส่วนกลาง จ่ายเมื่อโอนกรรมสิทธิ์ คิดตามขนาดพื้นที่บ้านหรือห้องชุด ทางโครงการจะนำเงินไปฝากธนาคารและนำมาใช้จ่ายเมื่อต้องบำรุงรักษาหรือซ่อมแซมทรัพย์ส่วนกลาง
8. ค่าประกันอัคคีภัย ถ้าซื้อโดยการกู้ยืม จะต้องทำประกันอัคคีภัยด้วยเสมอ มักเริ่มจ่ายเบี้ยประกันพร้อมเงินผ่อนชำระงวดแรก และเก็บทุกๆ 3 ปี อัตราเบี้ยประกันมาตรฐานกำหนดไว้โดยกรมการประกันภัย แต่อาจได้รับส่วนลดจากธนาคารที่ขอกู้ยืม
9. ค่าประกันมิเตอร์ ปกติแล้วทางโครงการจะจ่ายค่าติดตั้งมิเตอร์น้ำ - ไฟให้ และเรียกเก็บภายหลังตามอัตราที่ทางราชการกำหนด
10. ค่าประกันภัยอาคาร ในกรณีคอนโด นิติบุคคลมักทำประกันภัยอาคารไว้ ผู้ซื้อจึงต้องร่วมจ่ายค่าประกันโดยคำนวณตามสัดส่วนพื้นที่ห้องด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก Home.co.th